Apple ระงับการขายสินค้า และดำเนินธุรกิจในประเทศ รัสเซีย

Apple ระงับการขายสินค้า และดำเนินธุรกิจในประเทศ รัสเซีย

Apple ประกาศถึงการระงับการจำหน่ายสินค้า-ผลิตภัณฑ์ และการดำเนินธุรกิจภายในประเทศ รัสเซีย หลังการรุกรานประเทศยูเครนในช่วงที่ผ่านมา (2 มี.ค. 2565) Apple ออกประกาศถึงการระงับการส่งออกสินค้า-ผลิตภัณฑ์เพื่อจัดจำหน่าย และดำเนินธุรกิจภายในประเทศ รัสเซีย หลังจากที่เกิดการรุกรานประเทศยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Apple ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัททางด้านเทคโนโลยีที่ออกมาแบนการส่งออกไปยังประเทศรัสเซีย

โดยบริษัทได้ทำการแถลงการณ์ว่า 

“พวกเรามีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวการรุกรานประเทศยูเครนของรัสเซีย และยืนเคียงข้างกับผู้ที่ได้รับผลกระทบที่เป็นผลจากความรุนแรงในครั้งนี้” “พวกเราให้การสนับสนุนความพยายามทางด้านมนุษยชน, ให้ความช่วยเหลือแก่สถานการณ์ผู้อพยพที่ยังไม่คลี่ลาย และทำเท่าที่จะทำได้ในการสนับสนุนทีมงานของเราในพื้นที่”

“พวกเราได้มีการดำเนินการหลายรูปแบบเพื่อเป็นการตอบโต้การรุกรานในครั้งนี้ โดยทางเราจะดำเนินการหยุดการขายภายในประเทศรัสเซีน และเมื่อสัปดาห์ก่อนทางเราก็ได้หยุดการส่งออกไปยังรัสเซียในทุกช่องทาง” 

Apple ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “บริการต่าง ๆ และ Apple Pay นั้น จะถูกจำกัด,แอปพลิเคชัน RT News – Sputnik News จะไม่สามารถดำเนินการดาวน์โหลดภายนอกพื้นที่ประเทศรัสเซีย อีกทั้งเรายังได้ดำเนินการตัดในส่วนของการบริการนำเสนอข้อมูลการจราจร และข้อมูลสดในพื้นที่ประเทศยูเครน เนื่องจากถือว่าเป็นมาตรการทางด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชนชาวยูเครน”

การดำเนินการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้น ภายหลังจากที่นาย Mykhailo Fedorov รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน ได้ทำหนังสือคำร้องไปยัง Tim Cook, CEO ของ Apple ให้ “มีการดำเนินการเท่าที่ทำได้ในการปกป้องประเทศยูเครน ภูมิภาคยุโรป และโลกประชาธิปไตย จากผู้รุกรานอำนาจนิยม – งดการสนับสนุนการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเข้าถึง App Store ภายในประเทศรัสเซีย

Apple ได้เริ่มที่จะตัดการเข้าถึงบริการ Apple Pay ของธนาคารรัสเซียบางแห่งไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน โดยในเวลานี้ยังไม่ทราบว่าอุปกรณ์ และแอปพลิเคชันของผู้ใช้งานในประเทศรัสเซียจะได้รับการอัปเดตหรือไม่ รวมไปถึงบรรดานักพัฒนาที่มีฐานอยู่ในประเทศนั้น จะสามารถเข้าถึงหลังบ้านได้หรือไม่ด้วยเช่นกัน

Apple กล่าวทิ้งท้ายว่า “พวกเราจะทำการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการของเราต่อไป” “พวกเราร่วมด้วยกับบรรดาผู้คนที่เรียกร้องถึงสันติภาพทั่วโลก”

เศร้า! นักศึกษาอินเดียเสียชีวิต ใน ยูเครน ขณะกำลังหาอาหาร

นักศึกษาอินเดียเสียชีวิต ในนครคาร์คิฟ ยูเครน ขณะที่กำลังออกหาซื้ออาหาร ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ด้านอินเดียกำลังประสานนำร่างกลับประเทศ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินเดียยืนยันว่ามีนักศึกษาวัย 22 ปี ที่ศึกษาในนครคาร์คิฟ เสียชีวิต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธใส่เมืองใหญ่อันดับที่สองของยูเครน

โดยเพื่อนของผู้ตายเล่าว่า เพื่อนของเขาออกจากหลุมหลบภัยเพื่อไปหาของทาน โดยเขามุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต ก่อนที่เขาจะขาดการติดต่อไป เมื่อเพื่อนของเขาติดต่อได้ เขาก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาเป็นภาษายูเครน ก่อนจะทราบในภายหลังว่า เพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว

ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่านักศึกษาชาวอินเดียเสียชีวิตอย่างไร ทั้งนี้ทางการอินเดียกำลังประสานงานเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากประเทศยูเครน โดยทางการอินเดียนั้นกำลังเร่งนำตัว ประชาชนชาวอินเดียออกนอกประเทศ ทั้งนี้ปฏิบัติการดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากอินเดียประสบปัญหาด้านการขนส่ง

นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียบุกรุกประเทศยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาในประเทศยูเครนจำนวนมากได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า การหาอาหารเป็นเรื่องยาก

รัสเซีย ส่ง พลร่ม บุกคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของ ยูเครน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 6.00 น. รายงานระบุทหารโจมตีโรงพยาบาลทหารทันที เมื่อวันที่ 2 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า กองทัพยูเครนได้ออกมายืนยันว่ ทหารรัสเซียได้โดดร่ม และเปิดฉากบุกรุก นคร คาร์คิฟ ในประเทศยูเครน โดยมีรายงานว่าทหารรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีโรงพยาบาลทหาร

ทั้งนี้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา นคร คาร์คิฟ กลายเป็นจุดศูนย์กลางความรุนแรง เนื่องจากเมื่อวาน (1 มี.ค.) ทางกองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่อาคารของรัฐบาล ก่อนที่ในเวลาต่อมากองทัพรัสเซียจะโจมตีย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนในวันเดียวกัน

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการโจมตีย่านที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นการตัดขวัญกำลังใจของประชาชนในพื้นที่

เบื้องต้นทางการยูเครนบอกว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงเมื่อวานนี้ 17 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

ล่าสุดศาลออสเตรเลียกำลังพิจารณาคดีฆาตกรรมนายรามิส โจนูซี ซึ่งผู้ก่อเหตุอาจได้รับโทษจำคุก 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ขณะที่ทางแอร์บีแอนด์บีได้ประณามเหตุฆาตกรรมอันโหดร้ายดังกล่าว และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป